2 วัน 1 คืน 650บาท@กาญจนบุรี

2 วัน 1 คืน "650บาท@กาญจนบุรี" (รูปเยอะ)

เมื่อปิดเทอมมาถึง ได้เวลาพักผ่อนแล้วเลยคิดกับเพื่อนๆว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันดีที่ไม่ไกลจากกทม.มากนักและด้วยงบประมาณที่มีจำกัดใช้สอยอย่างประหยัด เรา9คนจึงตัดสินใจไปเที่ยวน้ำตกที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน

08.00 

เริ่มการเดินทางด้วยรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก มาขึ้นรถไฟที่สถานีตลิ่งชัน

พอมาถึงก็เอาบัตรประชาชนไปแลกตั๋วรถไฟฟรีมา

08.05 

รถไฟมาแล้วววววเลทมาประมาณ5นาที

ระหว่างการเดินทาง

10.45 

และแล้วเราก็มาถึงสถานีรถไฟกาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที

จากนั้นเราคิดกันว่าจะไปตลาดเพื่อซื้อของสดไปทำบาร์บีคิวกันที่อุทยาน แต่ไม่รู้จะไปยังไงเลยไปถามพี่วินมอไซ เค้าคิด25บาท แต่ถ้าซ้อนกันไปคนละ 20บาท

 
11.30 

เรามาถึงตลาดจ่ายเงินพี่วินเสร็จสับ ปรากฎว่าตลาดที่ว่าคือตลาดขายเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มีอาหารบ้างประปรายแต่

ไม่มีของสด!!!!!! 

แพลนที่วางมาพังหมดบาร์บีคิวปิ้งย่างแคมปิ้งชั้นหละ

 

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของทริป

#kankinaraitrip

จะกินอะไรวะเนี่ย

ด้วยความหิวและไม่มีอะไรกินเลยเข้าเซเว่นซื้อขนมนมเนยกินกันไปก่อน จากนั้นติดกับตลาดเป็นขนส่งพอดีเราเลยมานั่งรถบขส.เพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติเอราวัณ (คนละ50บาท)

ตารางเวลารถไป-กลับ

11.50 

เริ่มออกเดินทางต่อ

โอ้ะโอคนเยอะเนอะขี้เกียจเบียดนั่งพื้นดีกว่า ติสมากมั้งแกร

13.15 

และแล้วววววเมื่อเรามาถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ รถจะหยุดจอดและมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาเก็บค่าเข้า ปกติคนละ 100 บาท แต่เราพกบัตรนิสิตไปด้วยเสียครึ่งราคา 50 บาท

ปล.บัตรเค้าคงหมดเลยใช้บัตรของแก่งกระจานแทนมั้ง55555

ถึงซะทีนะ

เมื่อมาถึงแล้วเราก็ไปจัดการติดต่อเจ้าหน้าที่เรื่องเต็นท์ที่เราจองไว้ออนไลน์ผ่านทาง

 http://dnp.go.th/parkreserve/tent_reservation.asp?lg=1 

เต็นท์ละ 150 บาทนอนได้ 2 คน เต็นท์ละ 225 บาทนอนได้ 3 คน (ตกคนละ75บาท)

ทางเดินทางนี้จะมีสะพานไม้ให้ข้ามซึ่งไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร มีป้ายปักว่าห้ามเดินผ่านพร้อมกันเกิน 5 คน

แต่เพื่อนเราอ้วนเดิน 2 คนก็พอเดี๋ยวพัง

 5555555555555

พอมาถึงจุดทำการ เจ้าหน้าที่ก็จะถามว่าเราจะเช่าอะไรเพิ่มไหม มีทั้งที่รองนอน หมอน ผ้าห่ม เตาถ่าน ฯลฯ

เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็แบกหมอนผ้าห่มที่เช่าเพิ่มไปยังจุดกางเต็นท์

วิวดีมากกกกติดริมแม่น้ำเย็นชื่นใจ

ภายในเต็นท์แอบสวยดูดีกว่าที่คิดไว้

15.30 

เมื่อจัดการเรื่องที่พักเสร็จหิวข้าวแล้วเลยหาอะไรรองท้องซะหน่อย ที่อุทยานมีร้านอาหารประมาณ 5-6 ร้าน ส่วนมากจะเป็นอาหารตามสั่งและส้มตำไก่ย่าง เราเลือกกินอาหารตามสั่ง ข้าวพริกเผาปลาหมึก(อีกแล้ว) ราคา 50 บาทรสชาติก็ไม่ได้ดีมากนัก

มีร้านกาแฟด้วย

เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่บอกว่าข้างหน้าทางเข้าอุทยานมีตลาดขายของสดอยู่ปิด 6 โมงเย็น แต่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เลยคิดว่ากินแถวนี้ก็ได้ขี้เกียจเดิน+เสียเวลาด้วย

เมื่ออิ่มท้องแล้วเลยเดินไปที่น้ำตกกะว่าจะเล่นน้ำสักชั่วโมงสองชั่วโมง

ชั้นที่ 1 "ไหลคืนรัง"

 

ไม่มีอะไรมากนัก น้ำขุ่น คนไม่นิยมเล่นกัน

ชั้นที่ 2 "วังมัจฉา"

 

คนเล่นกันเยอะเพราะตอนขึ้นไปชั้นนี้ประมาณ4โมง ชั้น3ปิดแล้ว

ปลาตอดขาเยอะมาก ตัวเล็กๆไม่เท่าไร ตัวใหญ่ก็นะจี๊ดๆ

17.00 ปี๊ดดดดดดเจ้าหน้าที่มาเป่านกหวีดให้ออกจากบริเวณน้ำตกได้แล้ว

เล่นน้ำเปียกปอนกันเสร็จก็กลับมาที่เต็นท์นั่งพักซักพักก่อนไปอาบน้ำ วิวดีมากพระอาทิตย์ส่องภูเขาด้านหลังเป็นสีทอง

อาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จก็ไปซื้ออาหารเย็นมากินกัน แต่ต้องรีบหน่อยนะเพราะร้านค้าต่างๆปิดกันประมาณ 2 ทุ่ม

มองฟ้าอีกทีทำไมส้มๆ อ่อไฟไหม้จ้าาาาา กลับไปที่เต็นท์ห้ะไฟไหม้อะแกรยังไม่อยากตายนา

เดินไปถามเจ้าหน้าที่อุทยานได้ความว่า อากาศแห้งต้นไม้เลยเสียดสีกันเกิดไฟป่า แต่มีแม่น้ำขั้นอยู่ระหว่างภูเขากับอุทยาน

โล่งใจไปได้แต่นอนดูไฟยามดึก

Day 2...
05.30 

กริ๊งงงกะว่าตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ตื่นมากลับพบกับคำว่า มืด มืดและมืด นอนต่อดีกว่า

07.00 

เพื่อนก็ไม่ตื่นเราก็ไม่ตื่น ตื่นอีกทีพระอาทิตย์ไปไกลละจ้า 55555

อากาศเย็นประมาณ 21 องศาและมีหมอกลง

ควันไฟไหม้ภูเขาเมื่อวานยังอยู่เลย

09.00 

แต่งตัวกันเรียบร้อยก็ไปกินข้าวพร้อมออกเดินทาง

ตอนแรกตั้งใจว่าจะไป-กลับโดยรถไฟฟรี แต่ตื่นสายเวลาเลยไม่ค่อยพอกลัวจะไปไม่ถึงน้ำตกชั้น7 เลยเปลี่ยนแพลนกลับรถบขส.เข้าตัวเมืองจากรอบ 12.00 เป็น 14.00 แทนและขึ้นรถตู้กลับกทม.

10.00 

เริ่มเดินทางไปน้ำตก ผ่านชั้น1และชั้น2

ก่อนขึ้นไปยังน้ำตกชั้น 3-7 ใครที่พกขวดน้ำมาด้วยต้องทำการมัดจำขวดใบละ 20 บาท เมื่อกลับลงมานำขวดลงมาด้วยก็มารับเงินคืนได้เพื่อลดปัญหาการทิ้งขยะบนน้ำตก

ชั้น 3 "ผาน้ำตก"

ชั้น 4 "อกนางผีเสื้อ"

 

ชั้นนี่มีสไลเดอร์ด้วย

ทางเดินสูงชันมากมากกกหอบแฮ่กๆกันเลยทีเดียว

ระหว่างทาง

เหนื่อยๆก็แวะพักจุดพักชมวิว

ชั้น 5 "เบื่อไม่ลง"

ซูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม



ชั้น 6 "ดงพฤกษา"

 

พี่ที่ขึ้นไปก่อนเดินลงมาบอกว่าไม่มีอะไรน้ำไม่เยอะ เลยไม่ได้เดินตามขึ้นไป

12.00 

เราใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อมาถึงจุดสูงสุด

ชั้น 7 "ภูผาเอราวัณ"

 

โอโหถึงแล้ววว 2,000 เมตรคุ้มค่ากับที่เดินขาลากขึ้นมา น้ำตกสวยมากสีขาวๆฟ้าๆใสๆ

เหมือนน้ำแข็งเกาะเลยงือออสวย

เดินขึ้นมาสูงสุดแล้วก็ถึงเวลาเดินลง

13.30 

ใช้เวลาเดินลงประมาณ 1.30 ชั่วโมงก็ถึงพื้นดิน

(?)

นั่งพักกินน้ำกินท่า เก็บข้าวของรอขึ้นรถกลับรอบ

14.00 

นั่งรถบขส.คันเดิมกลับไปยังขนส่ง

15.30 

ถึงขนส่งกาญจนบุรี

นั่งรถตู้กาญจนบุรี-กทม. รถออก 16.00 ถึงกทม. 18.00 คนละ 100 บาท

สรุปค่าใช้จ่าย

-ค่ารถบขส.ไป-กลับอุทยาน 100

-ค่าเช่าเต็นท์+เครื่องนอน 95

<-p>ค่าเข้าอุทยาน 50

-ค่ามอไซ 20

-ค่าอาหารประมาณ 300

-ค่ารถตู้กลับ 100

คำแนะนำ

-ควรใส่รองเท้าผ้าใบเพราะเดินเยอะเมื่อยเท้ามาก

-ควรนำเสื้อกันหนาวและไฟฉายติดตัวไปด้วย

จบแล้วสำหรับทริปกาญจนบุรีนี้ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะบ้ายบายยย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เวทย์แวมไพร์ ต่างกับดูดเลือดยังไง?

คุณรู้ชื่อเดิมของRovหรือเปล่า? มาดูกัน

Wukong แพ้ทางฮีโร่อะไรบ้าง